เจาะหลัง (lumbar puncture)
คือ การเจาะหลัง/แทงหลัง โดยหมอจะแทงเข็มเข้าไปในช่องไขสันหลัง
ไขสันหลัง (Spinal cord)
เส้นประสาทที่ทอดยาวจากสมองไปตามแนวกระดูกสันหลังและออกสู่แขนขา ทำให้เราสามารถ ขยับแขนขาร่างกายได้ก็ด้วยการสั่งงานจากสมองผ่านทางเส้นประสาท
ด้วยความที่ไขสันหลังต่อออกมาจากสมองโดยตรง ดังนั้นจึงเปรียบเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสมอง
น้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง / น้ำไขสันหลัง /น้ำในโพรงสมอง
(CSF / Cerebrospinal fluid )
คือของเหลว/น้ำ ที่อยู่ในชั้นใต้ชั้นเยื่อหุ้มสมอง ทำหน้าที่พยุงสมองและไขสันหลังไว้ไม่ให้เกิดการเลื่อนไหลของสมอง ซึ่งเมื่อมีความผิดปกติของเยื่อหุ้มสมอง และ/หรือของไขสันหลัง รวมทั้งของเนื้อสมอง ก็จะส่งผลให้มีความผิดปกติของ CSF จึงเป็นเหตุผลที่แพทย์ต้องนำCSF มาตรวจ (การเจาะน้ำไขสันหลัง) ในกรณีที่สงสัยว่าจะมีความผิดปกติของเยื่อหุ้มสมองและ/หรือของไขสันหลัง
เจาะน้ำไขสันหลังเพื่อ..?
-
เพื่อการรักษา เช่น
-
การเจาะระบาย CSF ในภาวะโพรงน้ำในสมองโต เพื่อเป็นการลดความดันในโพรงกะโหลกศีรษะ
-
การฉีดยาเคมีบำบัด (Intrathecal injection) ในการรักษาโรคมะเร็งที่แพร่กระจายมายังเยื่อหุ้มสมอง
-
และการฉีดยาชาเพื่อระงับการปวดในการผ่าตัดบางชนิด
-
-
เพื่อการวินิจฉัยโรค เช่น ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบติดเชื้อ ภาวะการอักเสบของไขสันหลังและ/หรือของเส้นประสาท เป็นต้น
ข้อห้ามในการเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง
-
มีก้อนเนื้องอกหรือก้อนเลือดในสมอง หรือมีภาวะใดๆที่มีความผิดปกติในเนื้อสมองที่ส่งผลให้มีความดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูงขึ้น
-
มีภาวะความดันในโพรงกะโหลกศีรษะที่สูงมากๆ จนส่งผลให้ผู้ป่วย ง่วงซึมลง หรือเกิดภาวะก้านสมองถูกกดทับ
-
มีภาวะเลือดออกง่าย
-
มีแผลบริเวณตำแหน่งที่จะทำการแทงเข็มเจาะหลัง
-
มีภาวะติดเชื้อบริเวณที่จะแทงเข็มเจาะหลัง
-
ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ ดิ้นไปมา (ถ้าจำเป็น อาจต้องทำการให้ยานอนหลับจนสงบก่อน
อุปกรณ์
-
อุปกรณ์ฆ่าเชื้อแอลกอฮอล์ 70% หรือ povidone-iodine สำลี
-
ถุงมือ
-
ผ้าปูปราศจากเชื้อ
-
forceps
-
lidocaine 1% without adrenaline
-
กระบอกฉีดยาขนาด 3 มิลลิลิตรและเข็มฉีดยาขนาด 18, 27 – 25 gauge
-
ขวดปลอดเชื้อสำหรับใส่น้ำไขสันหลัง
-
เข็มเจาะน้ำไขสันหลังแบบที่มี stylet (ตาราง)
-
หลอดวัดความดันน้ำไขสันหลังและท่อต่อ 3 ทาง (three-way stopcock)
-
พลาสเตอร์
-
รถ emergency (เตรียมสำหรับกรณีฉุกเฉิน)
ขนาดเข็มเจาะน้ำไขสันหลัง
ทารกก่อนกำหนด 22 gauge หรือเล็กกว่า ยาว 1.5 นิ้ว
ทารกแรกเกิด – 2 ปี 22 gauge ยาว 1.5 นิ้ว
2 – 12 ปี 22 gauge ยาว 2.5 นิ้ว
มากกว่า 12 ปี 20 หรือ 22 gauge ยาว 3.5 นิ้ว
การเตรียมผู้ป่วยและญาติก่อนการทำหัตถการ
-
อธิบายความจำเป็นและวิธีทำแก่ผู้ป่วยและญาติสำหรับเด็กใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายโดยคำนึงถึงการพัฒนาทางภาษาของเด็ก (ยกเว้นผู้ป่วยเด็กทารกหรือเด็กที่ยังไม่สามารถใช้ภาษาสื่อสาร)
-
เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่จะเข้าปฏิบัติต่อเด็ก
-
อนุญาตให้ญาติที่ได้รับการเตรียมอยู่กับผู้ป่วยขณะที่ทำหัตถการ
วิธีทำ
-
การปฏิบัติทุกขั้นตอนให้คำนึงถึงวิธีปราศจากเชื้อ
-
ผู้ป่วยทารกแรกเกิดผู้ป่วยที่มีปัญหาหัวใจหรือการหายใจให้ตรวจจับชีพจรการหายใจระดับความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดตลอดช่วงที่ทำหัตถการ
-
จัดท่าและจับผู้ป่วยให้อยู่ในท่าที่เหมาะสมเพื่อให้ช่องระหว่างlamina กว้างขึ้นโดยให้เด็กนอนตะแคงชิดขอบโต๊ะช้อนแขนใต้ศีรษะเด็กให้ก้มคางชิดหน้าอกสอดแขนอีกข้างใต้เข่าเด็กและงอเข่าขึ้นมาชิดหน้าท้องผู้ช่วยจับข้อมือของตัวเองให้แน่นจะทำให้สามารถจับเด็กได้อย่างมั่นคงและดูแลให้ไหล่และสะโพกของเด็กตั้งฉากกับพื้น
-
คลำตำแหน่ง posterior superior iliac crests ลากเส้นสมมุติตรงลงมาที่กระดูกสันหลังจะอยู่ตรงกับช่องกระดูกสันหลังที่ L3 – L4 เลือกเจาะน้ำไขสันหลังที่ระดับ L3 -L4 หรือ L4 – L5 เด็กทารกอาจเลือกที่ระดับ L2 – L3 ได้แต่ไม่ควรทำในตำแหน่งที่สูง เนื่องจากมันอยู่ใกล้ spinal cord อาจเสี่ยงต่อการพิการได้
-
ทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเริ่มจากตรงกลางวนไปรอบๆเป็นบริเวณกว้างปูผ้าเจาะกลาง
-
ฉีด 1% lidocaine ที่ตำแหน่งที่ต้องการผู้ป่วยบางรายอาจต้องให้sedation ร่วมด้วย
-
ใช้เข็มเจาะหลังแทงเข้าตรงกลางช่องตัวเข็มให้ตั้งฉากกับผิวหนังปลายเข็มชี้ไปที่สะดือขณะแทงเข็มผ่าน ligamentum flavum และ duraจะรู้สึกว่ามีความหนืดต้านอยู่ทันทีที่ทะลุผ่าน dura แรงต้านจะหายไปให้เอา stylet ออกตรวจสอบว่ามีน้ำไขสันหลังไหลออกมาหรือไม่ถ้าไม่มีน้ำไหลออกมาให้ลองหมุนเข็ม 90 องศาถ้ายังไม่มีน้ำไหลให้ใส่styletกลับเข้าไปแล้วเลื่อนเข็มเข้าไปอีกเล็กน้อยตรวจสอบอีกครั้งถ้ายังไม่ไหลให้ดึงเข็มที่ มี stylet ออกมา ให้ปลายเข็มอยู่ใต้ผิวหนังแล้วสอดเข็ม โดยเปลี่ยนทิศทางใหม่ ถ้าน้ำไขสันหลังมีเลือดปน อาจเป็น traumatic tap ถ้าไม่ไหลหรือมี clot ให้เปลี่ยนเข็มและเปลี่ยนช่องไขสันหลัง
-
วัด opening pressure โดยใช้ manometer ควรทำทุกรายถ้าทำได้เด็กที่ดิ้นมากไม่ให้ความร่วมมือค่าที่วัดได้อาจคลาดเคลื่อนค่าที่วัดได้จะถูกต้องถ้าเด็กอยู่ในท่านอนตะแคงไม่เกร็งและน้ำไขสันหลังไหลดีต่อเข็มเจาะน้ำไขสันหลังกับmanometer ผ่านท่อต่อ 3 ทางจนระดับน้ำขึ้นได้สูงสุดใน manometer และขยับขึ้นลงตามการหายใจ ความดันปกติอยู่ที่ 5 – 20 เซนติเมตรน้ำ ถ้าขาและศีรษะเหยียดออก และถ้าผู้ป่วยอยู่ในท่าก้มศีรษะและงอขา ความดันปกติจะอยู่ที่ระดับ 10 – 20เซนติเมตรน้ำ
-
เก็บน้ำไขสันหลังจำนวนเท่าที่ต้องการส่งตรวจ
-
วัด closing pressure จากนั้นใส่ stylet และเอาเข็มออกเช็ดผิวหนังปิดแผล
-
เก็บอุปกรณ์ทิ้งของมีคมและวัสดุปนเปื้อนในภาชนะที่เหมาะสม
-
ล้างมือ
-
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงายราบไม่หนุนหมอน ประมาณ1 – 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการกดเลือดให้หยุดและป้องกันการเคลื่อนของสมองจากการที่น้ำหล่อเลี้ยงสมองถูกดูดไป
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนพบได้บ่อย ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง ได้แก่ ปวดหลัง ปวดศีรษะparesthesia
-
ปวดหลังมักไม่รุนแรงในกรณีที่มีอาการรุนแรงและมีความผิดปกติทางระบบประสาทอาจเกิดเนื่องจากมี subdural or epidural spinal hematoma ต้องส่งตรวจและให้การรักษาทันที
-
paresthesia อาจเกิดจากปลายเข็มถูก cauda equina เมื่อขยับเข็มอาการจะหายไป
-
ปวดศีรษะเด็กอายุมากกว่า 10 ปีพบได้ 10 – 70% เกิดจากมีการซึมของน้ำไขสันหลังผ่านรู dura อาจมีอาการ vertigo, tinnitus และdiplopia ร่วมด้วยควรป้องกันโดยใช้เข็มเจาะขนาดเล็กและเอาน้ำไขสันหลังออกให้น้อยการจัดท่านอนราบหลังจากเจาะไม่ช่วยป้องกันการปวดศีรษะ ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอย่างอื่น ที่อาจพบได้คือ LP-induced meningitis, subdural /epidural hematoma, epidermoid tumor, disk herniation, retroperitoneal abscess,spinal cord hematoma และ cerebral herniation และควรระวังปัญหาเรื่องระบบหายใจและหัวใจในขณะจัดท่าด้วย
ความเห็นล่าสุด